เตียงเด็กแบบไหนดี พร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้อ

การเลือกเครื่องนอนให้ลูกน้อยนอนหลับสบาย เต็มอิ่มเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากลูกหลับสนิทดีแล้ว จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย มีความพร้อมด้านสมาธิ ความจำ การตัดสินใจ และเป็นเด็กที่อารมณ์ดี ยิ้มง่าย ไม่ค่อยหงุดหงิด

หากเลือกเครื่องนอนที่ไม่ดี อาจทำให้โครงสร้างกระดูกของลูกเสียได้ เพราะกระดูกของเด็กเล็กยังอ่อนอยู่ นอนจากนี้ เครื่องนอนที่ไม่มีคุณภาพอาจทำให้ลูกหลับไม่สนิท หลับๆ ตื่น เมื่อลูกน้อยตื่นเข้ามาแล้วจะหงุดหงิดงอแง เป็นเพราะเขานอนไม่เพียงพอนั่นเอง

เตียงนอนเด็กเลือกแบบไหนดี

จะเห็นแล้วว่าการเลือกเตียงเด็กนั้นมีความสำคัญไม่ใช่น้อยเลยนะคะ สำหรับครอบครัวที่กำลังจะเตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่และสงสัยว่าเตียงเด็กแบบไหนดี วันนี้ทางเคเจเจริญทอยส์ ได้หาข้อมูลดีๆ มาฝากกันอีกเช่นเคยค่ะ

ให้ลูกนอนอย่างไรดี

นอนห้องเดียวกับลูก

1. นอนเตียงเดียวกันกับเรา

ทำให้ดูแลลูกได้ง่าย แต่คุณพ่อ คุณแม่อาจจะไม่ค่อยสบายใจ เพราะเกรงว่าตนเองจะนอนทับลูกหรือเปล่า หรือ หากคุณพ่อ หรือคุณแม่เป็นคนที่นอนกรนมากๆ ก็อาจจะกังวลใจว่าทำให้ลูกน้อยหลับไม่ค่อยสนิท

2.นอนห้องเดียวกัน แต่ให้ลูกแยกไปนอนเตียงเด็ก

วิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาเรื่อง คุณพ่อ คุณแม่พลิกตัวมาทับ และฝึกให้ลูกคุ้นชินกับการนอนแยกเตียง ก่อนที่โตไปแล้วจะต้องแยกห้องกันนอนกับคุณพ่อ คุณแม่

แยกห้องนอนให้ลูก

ที่นอนเด็กมีกี่แบบ ?

ส่วนใหญ่แล้วที่นอนเด็กจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ เตียงเด็ก Playpen  และเปลไกว ซึ่งแต่ละชนิดก็มีข้อแตกต่างกันดังนี้ค่ะ

  • เตียง : เตียงเด็กแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

1.เตียงไม้

เตียงเด็กแบบไม้ มีข้อดี คือ แข็งแรง ทนทาน สวย ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนิท ผลิตจากไม้หลายชนิด เช่น ไม้อัด ไม้สน ไม้ยางพารา ดังนั้น ประสิทธิภาพการใช้งานและราคาก็จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของไม้ หากเป็นไม้อัดจะมีน้ำหนักเบา แต่อาจมีอายุการใช้งานน้อยกว่าไม้ชนิดอื่น ดังนั้นการเลือกซื้อเตียงไม้ควรเลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

เตียงไม้เด็ก

แม้ว่าเตียงไม้อาจจะดูใหญ่เทอะทะ และเคลื่อนย้ายยาก แต่หากใส่เบาะรองนอนลงไปแน่นๆ เตียงเด็กแบบนี้ก็จะทำให้ลูกนอนหลับสบาย ไม่ปวดหลังเพราะกระดูกสันหลังไม่โค้งงอ อีกทั้งผู้ผลิตหลายรายยังออกแบบให้เตียงไม้ขยายขนาดได้ และใช้งานได้อเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น  นอกจากจะเป็นเตียงเด็กแล้ว ยังปรับรูปแบบเป็นเปลโยก คอกหัดเดิน โซฟา หรือโต๊ะเขียนหนังสือได้ด้วย   

ข้อจำกัดของเตียงเด็กแบบไม้ : ราคาค่อนข้างสูง และหากโดนความชื้นอาจเกิดการพองตัว

2.เตียงแบบโครงเหล็ก

เตียงเด็กแบบเหล็กมีข้อดีคือ แข็งแรงกว่าเตียงไม้ มีน้ำหนักเบา แต่รองรับน้ำหนักได้มากและมีอายุการใช้งานนาน ผู้ซื้อสามารถซื้อไปประกอบเองได้  เหล็กมีความแข็งแรง ทำให้ไม่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆ

เตียงเด็ก แบบโครงเหล็ก

นอกจากนี้ เตียงเด็กแบบเหล็กยังมีข้อดีคือ ราคาไม่สูงมากและหาซื้อได้ง่าย แต่มีจุดที่ควร

ข้อควรระวัง สำหรับเตียงเด็ก แบบที่เป็นโครงสร้างเหล็ก คือ เป็นสนิม และบางจุดที่มีความแหลมคมอาจก่อให้เกิดอันตรายกับเด็ก

วิธีการเลือกเตียงเด็ก

  1. เลือกตามอายุการใช้งาน ว่าเหมาะสมกับเด็กอายุเท่าใดบ้าง
  2. เลือกจากวัสดุที่แข็งแรงทนทานและปลอดภัยต่อเด็ก
  3. การทำความสะอาดและการจัดเก็บเมื่อไม่ได้ใช้งานแล้ว
  4. หากเตียงชำรุดจะซ่อมแซมอย่างไร ควรสอบถามจากพนักงานให้ชัดเจน
  5. ความคุ้มค่าว่าซื้อมาแล้วสามารถใช้งานได้หลายหลายหรือไม่ เตียงไม้บางยี่ห้อมีล้อทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก

Playpen

คุณหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด ได้กล่าวถึงข้อดี ข้อควรระวังในการใช้ และการเลือกซื้อ Playpen ไว้ ดังนี้

ข้อดีของการใช้ Playpen

  1. มั่นใจว่าลูกอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ในขณะที่ผู้ใหญ่เดินไปทำธุระที่บริเวณอื่นของบ้าน เช่น ไปอาบน้ำ ทำครัว ไปรับโทรศัพท์หรือเซ็นรับของที่มาส่งไปรษณีย์
  2. ลูกอยู่ในที่สะอาด และและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับฝึกพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวได้ดี
  3. ถ้า Playpen มีขนาดใหญ่พอ พ่อแม่จะเข้าไปเล่นกับลูกได้ เป็นการทำให้ลูกไม่รู้สึกเหงาหรือว้าเหว่

ข้อควรระวังในการใช้ Playpen

1. ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่ใน Playpen โดยลำพังนานเกินไปเพราะจะทำให้ลูกขาดปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ทำให้ลูกรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง หากต้องให้ลูกอยู่ใน Playpen ตามลำพังไม่ควรนานเกิน 30 นาที/วัน แต่ถ้ามีพ่อแม่เล่นอยู่ด้วย จะอยู่ในนั้นนานเท่าไรก็ได้

นอกจากนี้การอยู่ใน Playpen นานเกินไป อาจเป็นการจำกัดพัฒนาการของลูก จึงควรให้ลูกได้ทำกิจกรรมอื่นๆ บ้างเพื่อเสริมพัฒนาการรอบด้าน

2. การอยู่ใน playpen ตลอดเวลาจะทำให้ลูกขาดการเรียนรู้ว่าในชีวิตจริงนั้นมีอะไรที่ต้องระวังบ้าง จึงต้องมีช่วงเวลาที่ลูกได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมตามจริงที่มีสิ่งต่างๆ อยู่รอบๆ มีการปีนป่ายบันไดเก้าอี้ แต่ต้องมีผู้ใหญ่คอยประกบคอยรับ คอยบอกคอยสอนว่า อันนี้อันตรายอย่างไร

3. อย่าใช้ Playpen ในการลงโทษหรือกักบริเวณเวลาที่ลูกทำผิด เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีกับ Playpen ควรทำให้ลูกรู้สึกสบายใจที่ได้เล่นอย่างมีความสุข

4. ระวังการปล่อยเด็กเกิน 2 ขวบอยู่ใน Playpen ตามลำพัง แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่อาจเกิดอันตรายได้ เพราะเป็นวัยที่ปีนออกจากที่กั้นแล้วอาจพลัดตกลงมา

5. ควรเลือกวัสดุที่ปลอดภัยได้มาตรฐานการผลิตและปลอดสารพิษ

วิธีเลือกซื้อ playpen

1.มีขนาดเหมาะสม

จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือทรงกลมก็ได้ แต่ไม่เล็กไปกว่าเตียงนอน เพราะต้องมีพื้นที่ให้ลูกนั่งเล่น คืบ คลาน เดินและนอนในคราวเดียวกัน

2.มีที่กั้นด้านข้าง

ที่กั้นของ Playpen มีแบบตาข่าย แบบเบาะ แบบซี่กรงที่ทำจากไม้ หรือ PVC ที่มีการบุให้นิ่มกันการกระแทก

วิธีเลือกซื้อ playpen

ข้อดีของแบบตาข่าย คือ พับเก็บง่าย ราคาไม่แพง แต่มีขนาดเล็ก ทำให้จัดกัดการเคลื่อนไหวของลูก และตาข่ายไม่มั่นคงทำให้เวลาเกาะจะทำได้ยากกว่า บางคนเลือกแบบผนังที่มีความมั่นคงแข็งแรง เป็น Playpen ที่มีขนาดใหญ่เพื่อให้ลูกเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่ Playpen แบบนี้จะเหมาะกับบ้านที่มีบริเวณกว้าง

3.พื้นผิวของวัสดุ

ควรเป็นชนิดที่ทำความสะอาดง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อลูก